นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.45/47 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิดตลาด เมื่อเช้าที่ระดับ 32.51/53 บาท/ดอลลาร์
โดยระหว่างวันเงินบาทยังไร้ปัจจัยใหม่ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ 32.40 - 32.52 บาท/ดอลลาร์ เช่นเดียวกับสกุลเงินส่วน ใหญ่ในภูมิภาคที่ยังคงนิ่ง
สำหรับคืนนี้ รอติดตามตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย. จาก ADP จากสหรัฐฯ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.35 - 32.65 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.17/18 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 143.65/67 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1772/1773 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1794/1797 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,115.69 จุด เพิ่มขึ้น 5.68 จุด (+0.51%) มูลค่าการซื้อขาย 34,958.34 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 677.97 ลบ.(SET+MAI)
- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
ครม.นัดพิเศษวันพรุ่งนี้ เพื่อแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายสุริยะ จะ
นำรัฐมนตรีใหม่ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนปฏิบัติหน้าที่
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผย ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนมิ.ย. 68 อยู่ที่ระดับ 48.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้น
จาก 46.7 เดือนพ.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ แต่หากพิจารณาโดยรวมทั้งไตรมาส 2/68 ความเชื่อมั่นปรับลดลงจากภาคที่มิใช่การผลิตเป็นสำคัญ
นำโดยกลุ่มโรงแรม และร้านอาหาร ที่ความเชื่อมั่นด้านปริมาณการให้บริการ และคำสั่งซื้อปรับลดลงมาก ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
โดยเฉพาะสัญชาติจีน ที่ลดลงมากจากความกังวลด้านความปลอดภัย
- ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 68 ไว้เท่าเดิม โดยคาด
การณ์ GDP ปีนี้ที่ 1.5-2.0% การส่งออก -0.5 ถึง 0.3% และเงินเฟ้อ 0.5-1.0% มองครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงจากหลายปัจจัย
รุมเร้า จี้แบงก์ชาติ ลดดอกเบี้ยนโยบาย ดูแลค่าเงินบาทให้สอดคล้องภูมิภาค และสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง เล็งเข้าพบหน่วยงาน
เศรษฐกิจแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
- เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นสมาชิกนักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุนรวม
เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนไตรมาส 3/68 โดยคาดการณ์ทิศทางหุ้นไทยคาดว่าจะปิดสิ้นไตรมาส 3 ที่ 1,166 จุด และเมื่อมองตลอดปีจะ
แกว่งตัวในกรอบ 1,023 ถึง 1,267 จุด โดยไปปิดสิ้นปี 68 ที่ 1,231 จุด
- GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำยังเผชิญแรงกดดัน จากสถานการณ์ตะวันออกกลางที่ผ่อนคลายลง ส่วนรายงานข้อมูล
เศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง แนะกลยุทธ์ทยอยสะสมที่ Gold Spot 3,220/3,200 ดอลลาร์/ออนซ์
- วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก มีมติด้วยคะแนนฉิวเฉียด 51 ต่อ 50 ผ่านร่างกฎหมายปรับลดภาษีและ
เพิ่มการใช้จ่ายขนานใหญ่ ที่นำเสนอโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยคะแนนเสียงชี้ขาด 1 เสียงดังกล่าวมาจากรองประธานาธิบดี เจ
ดี แวนซ์ ซึ่งใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในฐานะประธานวุฒิสภา โดยขณะนี้ร่างกฎหมายถูกส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอการอนุมัติในขั้นตอนสุด
ท้าย
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตรา
ว่างงานเดือนมิ.ย., ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.
และดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM)